วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ซื้อ JR Pass กันเถอะ

ว่าด้วย JR Pass มันคืออะไร หลายคนอาจจะไม่รู้จัก จริงๆ แล้วมันก็คือ ตั๋วที่เอาไว้ขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่น ได้อย่างไม่จำกัด แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่ง คือ รถไฟที่ขึ้นได้นะ มันต้องของบริษัท JR เท่านั้นนะ แต่จริงๆ แค่ JR ก็ครอบคลุมไปไหนมาไหนได้เกือบหมดในญี่ปุ่นแล้วแหละ อันนี้รวมถึงพวกรถไฟความเร็วสุดอย่างพวก Shinkansen ด้วย แต่ก็ไม่ใช่จะนั่งได้หมดทุกคันนะ พวกที่เร็วที่สุดที่เรียกว่า Nozomi จะขึ้นไม่ได้ เห็นมันดีขนาดนี้ก็ไม่ใช่ถูกๆ แค่ใช้ 7 วัน ก็ปาไปเกือบ 9,000 บาทละ ก็ต้องมานั่งดูว่าคุ้มไหมกับการซื้อ เพราะว่านอกจาก JR Pass แล้ว มันก็ยังมีตั๋วแบบอื่นๆ อีก เช่น Kansai Pass ที่เอาไว้นั่งอะไรก็ได้ทั้งหมดในจังหวัดแถบ Kansai อะไรพวกนั้น แต่เนื่องจากตารางที่แพลนไว้ ไม่ได้ไปแต่แค่ใน Kansai เพราะฉะนั้น ก็ซื้อ JR Pass นี่แหละ น่าจะคุ้มที่สุดแล้ว


แล้วจะซื้อที่ไหนได้ละสำหรับ JR Pass จากข้อมูลในหนังสือที่ซื้อมา แล้วก็ในเว็ป ก็บอกว่า JR Pass จะต้องซื้อจากต่างประเทศเท่านั้น ซื้อในญี่ปุ่นไม่ได้ ที่เป็นแบบนี้ เพราะมันเป็นบัตรที่ให้เฉพาะชาวต่างชาติจริงๆ ในญี่ปุ่นเองเลยไม่มีขาย จริงๆ สิ่งที่เรากำลังจะไปซื้อก็เรียกว่า JR Pass ก็ไม่ถูกสักทีเดียว เพราะว่า สิ่งที่เราจะไปซื้อนี่มันคือ Exchange Order ซึ่งเราต้องเอาไอ้ Exchange Order นี้ไปแลกเป็น JR Pass ตัวจริงที่ญี่ปุ่นเอง

สำหรับในประเทศไทย ก็มีร้าน travel agency ที่สามารถออกตั๋วได้อยู่ประมาณ 10 ร้านได้ (ถ้าอยากดูว่ามีที่ไหนบ้าง ก็ดูได้ที่ link นี้ http://www.japanrailpass.net/05/en05_1.html) ซึ่งบางร้านก็ต้องซื้อเป็นเงินเยนเลย หรือบางร้านก็ซื้อด้วยเงินบาทไทยเลยก็ได้ จาก list ดูแล้วน่าจะสะดวกที่สุดก็คือ TV Air Booking เพราะมีสาขามากมาย แล้วก็อยู่ตามห้างต่าง แล้วนั่ง BTS ได้ด้วย ไปดูในเว็ป เขียนไว้ว่า 8,900 บาท สำหรับ Ordinary JR Pass แบบ 7 วัน ลองโทรไปถามเค้าก่อนว่า เท่าไหร่ ก็บอกว่า 8,700 บาท ซึ่งถูกกว่าถ้าคิดจากราคาเยน 28,300 เยน โอเค ไปซื้อเลยละกัน สาขา central ชิดลม ใกล้สุด รีบออกเดินทางจากที่ทำงาน เพื่อไปให้ถึงก่อน 1 ทุ่ม พอไปถึง

Me: จะซื้อตั๋ว JR Pass ครับ
TV Air Staff: จองไว้หรือป่าวคะ
Me: อ่อ ป่าวครับ
TV Air Staff: ถ้าไม่ได้จอง พรุ่งนี้ถึงจะออกตั๋วให้ได้นะคะ
Me: อ้าวหรอครับ โอเคๆ ไม่เป็นไรครับ พรุ่งนี้มาเอาก็ได้
(ในใจ อ้าวแล้วไม่บอกกูละตอนที่คุยโทรศัพท์ว่า ต้องจองก่อน แล้วค่อยมารับอีกวัน ต้องวิ่งถ่อสังขารมาถึง central กลัวร้านปิด แม่ง)

หลังจากจองเสร็จ แจ้งชื่อภาษาอังกฤษ ซึ่งตรงกับใน Passport อันนี้สำคัญมาก ถ้าชื่อไม่ตรง ก็จะออกตั๋ว JR Pass ที่ญี่ปุ่นไม่ได้ ต้องระวังให้ดี เสร็จ เรียบร้อย พนักงานจดไว้ใน(เศษ)กระดาษ แล้ววางแปะไว้กับกองกระดาษหน้าคีย์บอร์ดของเธอ ในใจก็นึกว่า มันจะปลิ้วหาย หรือโดนขยำทิ้งไปไหมวะเนี่ย

เย็นวันรุ่งขึ้น
วันนี้จะไปรับตั๋ว JR Pass แต่หลังจากสภาพของการจดจากพนักงาน TV Air Booking ก็เลยโทรเช็คก่อนดีกว่าว่าได้ตั๋วจริงๆ หรือป่าว ไม่งั้นจะต้องไปฟรีแบบเมื่อวานอีก โทรไปก็ได้ความว่า เรียบร้อยออกตั๋วให้แล้ว มารับได้เลยคะ โอเคตอนเย็นนั่งรถไฟฟ้าจาก office ไป central ชิดลม เพื่อรับ Exchange Order ไปถึง ก็บอกพนักงานที่กำลังวุ่นวายอยู่กับผู้คนที่มาซื้อตํวต่างๆ นานาว่า "มารับบัตร JR Pass ครับ" พนักงานก็สับสน พยายามหาตั๋วที่ออกไว้ให้ ได้ยินพนักงานบอกว่า พี่คนนึง เอาบัตรไป ในใจก็ อ้าว กูจะซวยอีกไหม TV Air มันจะมั่วอีกแล้วหรือป่าววะ ผ่านไป 5 นาทีในที่สุดก็เจอ คุณพนักงานก็อธิบายว่าเราต้องเอาใบนี้ไป แลกกับตั๋วจริงๆ ที่ญี่ปุ่น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็รู้อยู่แล้วแหละว่า มันจะเป็นยังไง จากหนังสือที่อ่านมา แถมยังบอกผิดอีกว่า แลกวันไหน ใช้วันนั้นเลย ซึ่งจริงๆ มันบอกเค้าได้ว่าจะใช้วันไหน ไม่จำเป็นต้องเป็นวันเดียวกับวันที่แลก มั่วมาก

สรุปก็ได้รับ Exchange Order มา 1 ใบรูปร่างหน้าตา เหมือนกับตั๋วเครื่องบินเลยแหะ

credit picture from http://www.japanrailpass.net/

1 ความคิดเห็น:

rnatha กล่าวว่า...

สนุก ๆ เขียนอีก ๆ เหมือนได้ไปญี่ปุ่นเอง ขอละเอียด ๆ