จากวัด Hasedera เราจะเดินกันต่อไปที่วัดที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี้เลยก็ว่าได้ ถ้าใครมา Kamakura แล้วไม่มาที่นี้ก็ถือว่าไม่ได้มาเลยก็ว่าได้ นั่นคือพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง องค์ Daibutsu นั่นเอง ระหว่างทางก็จะมีร้านขาย softcream มากมาย โคน softcream สีม่วงเขียวอันใหญ่ตั้งอยู่หน้าร้าน เชิญชวนให้เข้าไปลิ้มลอง แต่เอาไว้ขากลับก่อนละกันนะ ไม่พลาดแน่ เดินได้สักพักก็จะถึงตัววัดแล้ว
ถึงแล้ว ตามระเบียบต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมซะก่อน 200 เยน เดินเข้าไปจะเป็นทางแยก 2 ด้าน ด้านซ้ายจะมีพวกต้นไม้ ต้นสนปลุกอยู่ ส่วนด้านขวามองไม่เห็นว่ามีอะไร งั้นไปทางขวาดีกว่า เดี๋ยวค่อยเดินมาทางซ้ายตอนกลับ พอเลี้ยวไปทางขวาปุ๊บ ก็จะเจอเลยองค์ Daibutsu อะไรมันจะง่ายอย่างนี้ ส่วนใหญ่ที่ญี่ปุ่นเนี่ย มันง่ายดีจัง hi-light ของสถานที่ต่างๆ พอจ่ายค่าเข้าชมปุ๊บ เลี้ยว 1 ทีก็จะเห็นเลย น่าจะเอาให้ตื่นเต้นซะนิดนะ กลับมาที่ Daibutsu จากตรงนี้จะเป็นภาพที่สวยมาก องค์พระสีฟ้าอมเขียว มีร่องรอยผ่านแดดผ่านฝนมานานนับร้อยปี ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ที่ลานกลางแจ้ง ด้านหลังเป็นภูเขาและท้องฟ้าสีฟ้า สวยมากเลย หยุดชื่นชมไม่ได้ เดินเข้าไปใกล้ เรื่อยๆ ก็รู้สึกว่า ทำไมเล็กกว่าที่คิดเยอะจัง น่าจะสูงประมาณตึก 2 ชั้นเอง สูงไม่เท่า Daibutsu ที่ Nara ตัวองค์พระทำมาจากสำริด เดิมที่มีวิหารอยู่ แต่เพราะว่าเกิด สึนามิ ขึ้นที่ชายฝั่งเมือง Kamakura ถล่มตัววัดจนเสียหาย แต่มีแต่องค์พระที่ยังเหลืออยู่ ตั้งแต่นั้นมาองค์ Daibutsu ก็ตั้งอยู่กลางแจ้งมาตลอด เดินวนชมความงามขององค์พระซะ 1 รอบ ด้านหลังขององค์พระมีช่องเปิดออกมา เลยทำให้รู้ว่าด้านในนั้นกลวง เราสามารถเดินเข้าไปดูข้างในได้ โดยจ่าย 20 เยนเท่านั้น ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร จ่ายเงินเข้าไป ก็สมกับราคาที่จ่ายไป เดินไปมา 2 ก้าวก็ทั่วตัวพระ ข้างในมืดๆ มีทางเดินขึ้นไปที่ช่องด้านหลังขององค์พระที่เปิดอยู่ แต่เค้าไม่ให้ขึ้น เดินรอบ 2 รอบรู้สึกอึดอัดคนเรื่อยเยอะ ขอออกดีกว่า ด้านข้างๆ ขององค์พระจะมีศาลา ด้านในจะมีขายเครื่องรางและของที่ระลึก นอกจากนั้นก็ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อน และตรงนี้เอง เราจะเห็นรองเท้าขนาดใหญ่ขององค์ Daibutsu ด้วย
จากตัวองค์พระ ลองเดินไปส่วนอื่นกันบ้าง ทางด้านหลังขององค์พระ จะมีศาลากับเทวรูปให้เราได้สักการะกัน รวมถึงห้องน้ำด้วย แต่อันนี้ไม่เกี่ยวกับการสักการะนะ บอกไว้เฉยๆ สรุปก็คือ ไม่มีอะไรแหละ เดินกลับมาชื่นชอบองค์พระกันซะอีกรอบ คราวนี้ลองเดินกลับไปอีกทางด้านที่เป็นต้นสนดีกว่า เอ๊ะ ทำไมมีป้ายภาษาคุ้นตา ไปดูใกล้ๆ หน่อยซิ อ้าวนี่มันภาษาไทยนี่หน่า เค้าเขียนว่าต้นสนต้นนี้เป็นต้นสนที่ ร. 7 ได้มาปลูกไว้ (จริงๆ เขียนเป็นภาษาทางการนะ)เดินไปอีกนิด ก็เป็นต้นที่ ร. 6 และก็เจ้าฟ้าชาย เคยปลูกไว้อีกด้วย ถ้าไปก็อย่าลืมไปแวะดูกันนะ
เสร็จจาก Diabutsu เดินกลับมาทางเดิม ก็ไม่ลืมสัญญา softcream 1 โคน เป็นรสชาเขียวและบลูเบอรี่ อร่อยดี หวานๆ กินตอนหน้าหนาว เย็นเชียว เยอะมากเลยกว่าจะกินหมด ไม่เหมือนไอติม Mac มีแต่ที่อยู่เหนือโคน ใต้โคนนี่กลวง ไม่ไหว กินหมด ก็ถึงสถานีพอดี ตอนนั้นก็เที่ยงได้แล้ว ตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้กินอะไร พอดีตรงสถานี Hase มีร้านราเมนอยู่ร้านนึงพอดี ชื่อร้าน Goten Ramen ถ้าจำไม่ผิด อยู่บนชั้น 2 ของร้าน 100 เยนตรงสถานี ก็เดินขึ้นไป ไปถึงก็สั่ง Goten Ramen ชื่อเดียวกับร้านเนี่ยแหละ ก็ได้ราเมนมา 1 ชาม อร่อยดีเหมือนกัน น้ำซุปเข้มข้นรสเกลือ คิดว่าเป็น Shio Ramen เนี่ยแหละ แต่ว่าคงปรับปรุง ปรับเปลี่ยนอะไรนิดหน่อย มีใส่หน่อไม้ซึ่งหวานดี แล้วก็สาหร่าย อร่อยดี แต่ก็มันเหมือนกัน กินเสร็จ ก็นั่งรถไฟ กลับไปยังสถานี Kamakura เพื่อไปยังจุดหมายถัดไป
วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น