หลังจากตัดสินใจปล่อยวางกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็ขนกระเป๋าไปเก็บไว้ใน locker จริงๆ ทางโรงแรมก็มีบริการฝากกระเป๋า แต่ว่าฝากไปก็คงเท่านั้น ไม่ปลอดภัยหรอก ไปเก็บใน locker เองยังจะปลอดภัยซะกว่า นี่ก็ 8 โมงแล้ว รีบไปดีกว่า เดี๋ยวไม่ทันรถไฟ จากสถานี Kyoto สามารถนั่ง JR Nara Line ไปลงที่สถานี Nara ได้ก็ขึ้นต้นสาย ลงปลายสายเลย สบายได้นั่งสบายๆ พอออกจากสถานี Nara ก็ขอแวะ Tourist Information Counter อยู่ตรงสถานีเลย ไปถึงก็มี 3 ช่องด้วยกัน รู้สึกช่องนึงจะเป็นสำหรับซื้อทัวร์ชมเมือง อีก 2 ช่องจะเป็นสำหรับให้ข้อมูลท่องเที่ยว ไปถึงก็มีฝรั่ง 2 คน ถามบ้าอะไรไม่รู้นานมาก จนมีคนมาต่อเต็มไปหมด ในที่สุดก็ถึงคิวเรา ก่อนจะถาม คุณน้าในตู้ขอสลับกับอีกตู้นึง เพราะดูเธอจะไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษ ก็คุยกับคุณน้าอีกคน แกแนะนำดีมาก ถามว่าเราจะทัวร์เมืองแบบเดินหรือป่าว เธอก็แนะนำว่าเนี่ย วัดนี้ popular เวลาเดินก็เดินตามนี้ ไปทางนี้ บอกเวลาเสร็จศัพท์ว่าจากนี้ไปนี้กี่นาที เค้าลากให้ในแผนที่ให้หมดเลย หน้าที่ของเราคือเดินตามทางที่เค้าลากไว้เลย friendly มากๆ เจ้าหน้าที่ที่นี้ willing to help everyone จริงๆ ตอนจบเธอก็จะมาถามว่าเราเป็นคนประเทศไหนอะไรอย่างนั้น
เริ่มเดินกันเลย จากสถานี Nara เราจะเดินไปตามถนน Sanjodori ไปเรื่อยๆ ตามทางก็จะเป็นร้านขายของต่างๆ ถ้าใครยังไม่จุใจกับข้อมูลการท่องเที่ยวก็สามารถแวะ Nara City Tourist Center ซึ่งอยู่บนถนนนี้ได้ นอกจากนี้ยังมี Sega World อีกด้วย พอดีผ่านกับร้าน minimart เลยแวะซื้ออาหารเช้าซะหน่อย ก็ซื้อพวก sandwiches, ข้าวปั้นมา 2-3 ชิ้น แล้วก็ที่ชอบมาเลย คือ ซุปข้าวโพดกระป๋อง เค้าแช่ไว้ที่ตู้ร้อน อากาศตอนนั้นกำลังหนาวซื้อมาถือไว้เนี่ยเยี่ยมไปเลย จาก minimart เดินไปไม่ไกลก็ถึงแล้วจุดหมายแรกของเรา วัด Kofukuji ถ้าเดินตามถนน Sanjodori จะเห็นเจดีย์ของวัดนี้ก่อน ก็เลี้ยวเข้าไปเลย แอบแวะหลบ ยืนเอาของที่ซื้อมาเมื่อกี้กินซะหน่อย ซุปข้าวโพดเนี่ยอร่อยได้ใจมาก มันร้อนกำลังดี รสชาติก็อร่อย อยากให้เมืองไทยมีขายแบบนี้จัง มาพูดถึงวัดกันดีกว่าจากจุดที่ยืนกิน เราเดินมาเจอกับเจดีย์ 3 ชั้นกันก่อน เจดีย์นี้หลบอยู่ในมุมของวัด รู้สึกไม่ค่อยมีใครผ่านมาเจอ ใกล้ๆ กันก็จะมีพระพุทธรูปหินมากมายเรียงรายอยู่ เดินขึ้นมาหน่อย ก็เจอกับศาลาสีแดง คิดว่ามันคือ Tokondo Hall ให้เราสักการะขอพรกัน เดินไปหน่อย กวางๆ เจอแล้วกวางตัวแรกใน Nara แล้วก็จะเจอกับเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นเจดีย์ที่สูงอันดับ 2 ของญี่ปุ่น ถัดมาเป็นพิพิธภัณฑ์ของวัด ซึ่งเราต้องจ่ายเงินเข้าชม พอดีเห็นว่าแค่เดินเข้าไปนิดเดียว วนไปวนมา แป๊บเดียว ลุงที่เพิ่งเข้าไปก็ออกมา ก็เลยไม่จ่ายเข้าไป
จากวัด Kofukuji เราจะเดินต่อไปยังวัด Todaiji พอออกจากวัด Kofukuji ก็จะเข้าเขตของ Nara Park แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับ Nara ทุกคนคงรู้ว่า มันก็คือ กวาง กวาง กวาง แล้วก็กวาง มองซ้ายก็เจอ มองขวาก็เจอ ถ้าเดินไม่ระวังก็จะเหยียบขี้กวางได้ เห็นนักท่องเที่ยวกรี๊ดกร๊าดกับกวางใหญ่ ระหว่างทางก็จะผ่านกับ Nara National Meseum มีหลายตึกมากเลย อยู่ภายในสวนเนี่ยแหละ มีรถลากรับจ้างกำลังหาลูกค้า ผ่านวัดเล็กๆ อะไรไม่รู้ เดินผ่าน Nara National Meseum แล้วก็เลี้ยวไปทางซ้าย ก็จะเจอกับ Nandaimon Gate ประตูไม้ขนาดยักษ์ เสาแต่ละต้น ทำมาจากต้นไม้ทั้งต้น แล้วก็ต้นนึงก็ไม่ใช่เล็กๆ ด้วย ประตูนี้น่าจะสูงไม่ต่ำกว่าตึก 4 ชั้นนะ น่าจะสูงกว่านั้นแหละ ภายในประตูก็จะมียักษ์แกะสลัก ทำจากไม้สูงเท่ากับประตูเลย มีกลุ่มเด็กๆ มาทัศนศึกษาด้วย น่ารักดี คุณครู พยายามให้นักเรียนถ่ายรูปกับกวางใหญ่ น่ารักดี ผ่านประตูด้านขวาก็จะเป็นสระน้ำ แล้วก็เหมือนมีศาลอยู่กลางน้ำ เดินต่อไปก็จะเจอกับประตูแดงชั้นสุดท้าย ก่อนถึงตัววัด ตรงประตูนี้ก็มียักษ์อีก 2 ตน แต่เค้าไม่ให้เราเข้าผ่านประตูนี้นะ ต้องเดินอ้อมไปทางซ้าย ก็จะเจอจุดจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชม แล้วค่อยเข้าทางนั้น
เดินเข้าไป ก็จะเห็นวิหารของวัด ขนาดใหญ่มากๆ สูงกว่าประตู Nandaimon ด้วยมั้ง ยิ่งใหญ่ดี วิหารสีแนวทึมๆ สร้างจากไม้ ข้างบนประดับด้วยช่อฟ้าสีทองอร่ามเลย วัดดูเหมือนมี 2 ชั้น เดินเข้าไปตรงกลาง ก็มีเหมือนเป็นกระถางธูป ด้านขวาก็เป็นที่ให้เราล้างไม้ ล้างมือก่อนเข้าวัด ยืนชื่นชมความยิ่งใหญ่ของวัดด้านนอกสักพัก ถึงเข้าไปด้านใน ก็ตะลึงกับ Daibutsu พระพุทธรูปองค์ใหญ่ยักษ์มากๆๆ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าภายในมีพระพุทธรูป คือ ก่อนหน้านี้ดูเฉยๆ ว่าวัดนี้มีอะไรบ้าง ก็เลยตะลึงกับองค์ Daibutsu มาก องค์พระสีดำ ไม่แน่ใจว่าทำจากอะไร ด้านหลังองค์พระเป็นรัศมี สีทอง กลีบบัวที่องค์พระนั่งอยู่ก็มีลวดลายงดงามมากเลย ถัดจากองค์พระมาทางขวา เป็นเจ้าแม่หรืออะไรไม่รู้ องค์สีทอง เท่ากับองค์ Daibutsu เลย เดินอ้อมไปด้านหลังขององค์พระ จะมีแบบจำลองของวัดในสมัยก่อน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าในปัจจุบันมาก นอกจากนี้ยังมีพวกยักษ์ตัวใหญ่ 2 ตน รวมถึงพวกสิ่งที่ประดับต่างๆ บนหลังคาของวัด ทางด้านขวาขององค์ Daibutsu จะมีเสาอยู่เสานึง จะมีรูให้เด็กๆ มุดเข้า มุดออกกันให้สนุกสนาน ในวิหารก็จะมีร้านขายของที่ระลึกด้วยเช่นกัน เห็นหนังสือบอกเล่าประวัติขององค์พระ เห็นน่ารักดีเลยซื้อมา
ออกมาจากวัด Todaiji เราก็จะเดินไปยัง Nigatsudo Hall ตามที่คุณน้าแกแนะนำว่า nice view จากวัด Todaiji ก็เดินขึ้นไปไม่ไกลก็จะถึง ระหว่างทางก็จะเจอกับ Great Bell เป็นระฆังใบใหญ่ของวัด Todaiji แหละ แต่ทำไมถึงมาตั้งไกลจัง พอเดินถึง Nigatsudo Hall ก็เจอกับกลุ่มทัวร์อีกเช่นเคย เค้าก็มาดูวิวเหมือนเราแหละ ส่งเสียงฮือฮากันใหญ่ ที่ Nigatsudo Hall นี้ก็เหมือนมีเจ้าอยู่ด้วย เห็นเค้าไหว้กันใหญ่ ที่นี่น่าจะเป็นที่ที่เค้าใช้ทำพิธีทางศาสนากัน วิวจากบนนี้สวยเหมือนกัน เห็นตัวเมือง Nara แล้วก็เลยไปอีกด้านนึงของภูเขาเลย ก่อนที่จะเดินต่อ ก็ขอแวะที่นั่งพักที่เค้าจัดให้ก่อนละกัน เอาเสบียงที่ซื้อไว้ตั้งแต่เช้าออกมากิน พอเดินออกมาจาก Nigatsudo Hall เดินเลาะมาตามทางก็จะเจอกับวัด ศาล หรือบ้านเก่าๆ เรียงรายอยู่ ไม่รู้ว่าคืออะไรเหมือนกัน
จาก Nigatsudo Hall เราก็จะเดินต่อไปยังศาลเจ้า Kasuka Taisha กันต่อ ระหว่างทางเราจะเดินเลียบไปกับเขา Wakakusayama ซึ่งด้านนึงก็จะเป็นร้านขายของ ขนม ของที่ระลึก ส่วนอีกด้านก็จะเป็นภูเขา ซึ่งเราก็จะเจอกวางอีกเช่นเคย ยืนต้อนรับขออาหารจากนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด จาก Nigatsudo Hall เดินไกลพอควรกว่าจะถึง แต่ด้วยอากาศเย็นแบบนี้ ก็ไม่ร้อน สบาย พอถึงและข้ามสะพานสีแดงไปแล้ว เราจะเห็นบรรยากาศที่จากที่โล่งๆ ต้นไม้ไม่สูงนัก เป็นบรรยากาศครึ้มๆ จากเงาต้นไม้สูง อยู่ภายหน้า ก็มีศาลเจ้าเล็กๆ ต้อนรับเราให้สักการะกันเลย ต้นไม้ตรงศาลนี้จะมีขนาดใหญ่มาก เดินเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะถึงตัวศาลเจ้าสีแดงสดสวย ที่ศาลเจ้านี้ เราจะเห็นนักบวชผู้หญิง ที่ใส่เสื้อสีขาวและใส่กางเกงแดงกัน พยายามจะถ่ายรูปเหล่านักบวชหญิง แต่ไม่รู้ว่าเค้ารู้ว่าเราจะถ่ายรูปเค้าหรือยังไง เดินกันเร็วมาก ถ่ายไม่ทันเลย ที่ศาลนี้จะมีตะเกียงอยู่โดยรอบศาล ทั้งโคมไฟที่ห้อยอยู่ รวมถึงโคมหินต่างๆ พอเราจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมด้านใน ก็จะพบกับสวนหิน และต้น Apple ขนาดใหญ่ภายใน ด้านในก็จะมีศาลต่างๆ ให้เราเคารพ สักการะ น่าเสียดายที่รูปตั้งแต่ส่วนนี้หายไปหมดเลย เศร้ามาก
พอออกจากศ่าล Kasuka Taisha เราก็สามารถเดินเข้าไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติของทางศาลเจ้าได้ แต่ขี้เกียจเดินเข้าไป เห็นตรงทางเข้าก็เป็นต้นไม้ทึบๆ เลย งั้นก็เดินกลับตัวเมือง Nara กันดีกว่า จากศาล Kasuka Taisha เราก็จะเดินผ่านส่วนของ Nara Park กลับไปยังวัด Kofukiji ที่ตอนเช้าเราไปมา พอดียังเห็นว่ามีเวลาเหลือ คุณน้าตอนนั้นแนะนำไว้ว่า ถ้าเราอยากเดินดูบ้านเรือนเก่าๆ ก็ให้ดูใน zone นี้ซึ่งจะอยู่ติดกับวัด Kofukiji เลย ลองเดินดีกว่า ภายในก็จะเป็นบ้านเรือนไม้รูปร่างน่ารักๆ กับถนน ซอยเล็กๆ บางบ้านก็เปิดเป็นร้านขายขนมญี่ปุ่น บางบ้านก็ขายของ บางบ้านก็เป็นบ้านที่อยู่อาศัย จริงๆ รูปในช่วงนี้ เท่าที่จำได้จะค่อนข้างให้อารมณ์ที่น่ารักๆ บ้านเล็กๆ ถนนเล็กๆ แต่ดันหายไปหมด กูละเซ็ง เดินพอแล้วถึงเวลากลับ ขากลับเราก็จะเดินกลับกันทางเดิมคือ เดินตามถนน Sanjodori ไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีรถไฟ Nara เพื่อเดินทางกลับ Kyoto และแล้วก็คงต้องลาแล้วกับเมือง Nara เมืองที่ชื่นชอบอีกแห่งสำหรับการมาญี่ปุ่นครั้งนี้
วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น