จาก Shinjuku ที่ซึ่งไม่มีอะไร จึงตัดสินใจกับพี่ต้าว่า ไป Harajuku กันดีกว่า น่าจะมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ จริงๆ Shinjuku กับ Harajuku ใกล้กันมาก จะเดินไปก็ได้ แต่ด้วยความขี้เกียจเลยนั่ง JR ไปก็แล้วกัน ไปถึงออกจากสถานีก็เจอถนน Takeshita พอดี คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกก มองไปมีแต่คน ถนนสายนี้ จริงๆ ก็ไม่น่าจะเป็นถนน ดูเหมือนซอยมากกว่า ที่เค้าปิดให้คนเดิน 2 ข้างทาง ก็มีแต่ร้านขายเสื้อผ้า ส่วนใหญ่จะเป็นของผู้หญิง ส่วนใหญ่ของกับร้านจะดูจัดแบบไม่ค่อยหรูหรา ดูเหมือนร้านในมาบุญครองมากกว่า พวกเสื้อผ้าราคาก็ไม่แพงมาก สำหรับถนนนี้ นอกจากร้านเสื้อผ้า ก็มีร้าน ไดโซะ ร้านขายของ 100 เยนที่มาเปิดสาขาในไทย แต่ที่ไม่ควรพลาดก็คือ เครป มาถึง Harajuku แล้วถ้าไม่กินต้นตำรับ ก็ยังไงอยู่ เครปที่นี่ มีหลายร้านมาก แต่ละร้านก็มีคนต่อแถวหมดทุกร้าน แต่

เดินจนสุดถนน Takeshita ข้ามไปอีกฝั่งนึง มีป้ายเขียนว่า Harajuku St. ร้านบนถนนฝั่งนี้ดูไฮโซขึ้น เช่นเดียวกับราคาก็เพิ่มขึ้นตามความไฮโซ คนก็ลดน้อยลง ร้านเสื้อผ้าผู้ชายจะมีมากขึ้น มีร้านที่แต่งสวยๆ หลาย


เดินแถว Harajuku จนเพลินกับการ shopping แต่ไงได้เสื้อมาตัวเดียว ส่วนพี่ต้าไม่ได้อะไรเลย ก็เพิ่งนึกกันได้ว่า เรายังไม่เห็นพวกคนที่แต่งตัวแรงๆ เลยนี่หน่า มันหายไปไหนกันหมดเนี่ย หรือว่าหนาวเลยไม่แต่งออกมาเนี่ย เลยทำให้รู้สึกยังมาไม่ถึง Harajuku จริงๆ ไม่เป็นไร ยังมีอาทิตย์หน้าเหลืออีก ไว้ลองมาใหม่ละกัน ตอนนี้ก็ 6 โมงแล้วต้องรีบไปหาภูริแล้ว นี่ก็นัดไว้ 6 โมงที่ Starbuck Shibuya เหมือนเดิม นั่งรถ JR 1 สถานีก็ถึง ไปถึงภูริก็ไม่อยู่ เลยไปหาโทรศัพท์โทรหา ก็เดินไปที่ Seibu ข้างๆ กับ Starbuck ลงไปชั้นใต้ดินไปโทรศัพท์ ก็กด เอ๊ะ ทำไมสายไม่ว่าง ลองกดใหม่ ก็ยังไม่ว่าง ไม่เป็นไร สงสัยภูริคุยไรอยู่ ก็เดินกลับไป Starbuck ใหม่ ทำแบบนี้ได้ประมาณ 3 รอบ ก็รู้สึกแปลก ไม่น่าจะคุยไรนานขนาดนี้ โทรศัพท์มันเสียหรือป่าวเนี่ย ลองไปหาเครื่องใหม่ดีกว่า เดินข้างไปอีกตึกข้างๆ Loft ไม่รู้ชื่ออะไร โทรไปภูริโกรธอีกแล้ว เนื่องจากเราสายกัน ก็โทรศัพท์มันเสียอะ ไม่งั้นเจอกันไปตั้งแต่ ครึ่งชั่วโมงที่แล้วนะ ก็ตกลงว่าจะเจอกันที่ Loft ละกัน ตอนแรกบอกว่าจะเจอที่ Tokyo Hand แต่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน ก็เลยเอา Loft พอเจอกันก็ไปหาไรกิน
มื้อเย็นนี้ก็ไปกินร้านข้าวหมูทอดราคาไม่แพง เป็นร้านธรรมดาๆ ก็เป็นหยอดเหรียญ ก็สั่งเป็นข้าวหมูทอดราดแกงกะหรี่ รูปร่างหน้าตาเหมือนที่ไทยนี่แหละ แต่มันต่างกันที่พอกินเข้าไป เนื้อมันกรอบนอก แล้วข้างในมันนุ่มเอามากๆ เลย ไม่เคยกินหมูทอดที่ไหนอร่อยเท่านี้ แล้วชิ้นก็ไม่ใช่เล็กๆ เหมือนที่ไทย ชิ้นใหญ่มาก มื้อนั้นอิ่มสุดๆ กินเสร็จก็ไป BIC Camera เพื่อไปซื้อ card reader เพราะว่า เครื่องภูริ ถ้าเสียบจากกล้องก็จะไม่เห็น ไม่รู้ทำไม ซื้อ card reader เสร็จก็พาพี่ต้าไปซื้อพวกเค้กเป็นของฝากที่ใต้ Tokyu ของเยอะมากเลย สามารถซื้อของฝากได้ที่นี่ มีของจากที่ต่างๆ มารวมอยู่ที่นี้ ไม่ว่าจะเป็นขนมญี่ปุ่น หรือพวกเค้กฝรั่ง มีหมด ของคาว ของหวาน พี่ต้า ก็ได้เค้กไปตามที่อยากได้ เนื่องจาก วันนี้ตั้งใจว่าจะกินซูชิให้ได้ ก็เลยซื้อซูชิแบบที่เค้าทำไว้แล้ว ไปกินถาดนึง นี่ขนาดอิ่มๆ นะเนี่ย กลับไปกินรสชาติก็ธรรมดา ภูริบอกว่าพวกนี้มันไม่อร่อยหรอก ต้องไปกินที่ร้าน
และแล้ววันนี้ก็จบลง พรุ่งนี้จะออกไปนอก Tokyo แล้ว แต่ยังเหลืออีกหลายที่ใน Tokyo ที่ยังเที่ยวไม่หมดเลย ไม่ว่าจะเป็น Asakusa, Ueno, Ikebukuro, Akihabara หรือว่า Odaiba เอาไว้มาเก็บตกวันที่เหลือละกัน วันนี้ไม่ค่อยมีรูปเท่าไหร่ เพราะว่ามัวแต่สนุกสนานกับการดูของ











credit picture from http://www.murayama.co.jp/service/architecture/uniqlo.html and http://www.galinsky.com/
5 ความคิดเห็น:
แกบรรยายเครปกะข้าวหน้าหมูทอดเวอร์ไปป่าว
ภูริ โกรธอีกแล้วอ่ะ ทำไมขี้หงุดหงิด จังจ้ะ ให้อภัยกะเหรี่ยงสองหน่อ เถอะนะ
เป๊าะ
ตึก Prada นี่เป็น A Must เลยนะ เห็นม้า ไม่ถามเราก่อน ไม่งั้นได้ไปเยี่ยมชมแล้ว เค้าบอกห้องลองนี่อลังการมาก ลองแล้วจะอยากซื้อทันที ตอนเราไปนี่ไม่มีอะไรให้ลองอ่ะ เลยไม่เสียตังค์ (จริงๆ แล้วไม่มีตังค์ให้เสีย)
เป๊าะ
ใจเย็นๆ กันนะทุกคน
เออๆๆๆ ชั้นผิดเองจ้ะทุกคน
ภูริ ข้าวหมูทอดร้านนั้นอร่อยมากเลย
ขอบคุณที่พาไปกินนะ
เป๊าะ ว่าใครกะเหรี่ยงยะ
แสดงความคิดเห็น