วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2551

เยือนเกาะศักดิ์สิทธิ์ Miyajima (2)

ออกจากศาล Itsukushima ก็จะเจอกับ Treasure Hall, Tahoto Pagoda และ วัด Daiganji ทันที บริเวณนี้เราจะสามารถสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย 1 ในนั้นก็คือ เทพเจ้าแห่งไฟ (มั้ง) ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกรุ๊ปทัวร์ พอออกจากศาล Itsukushima ก็จะเลี้ยวออกไปเลยไม่แวะแถวนี้ ถึงแม้จะเป็นวัดเล็กๆ แต่ก็มีอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย ถ้าได้มีโอกาสก็อย่าลืมแวะด้วยละกัน

เรายังมีที่จะต้องไปอีกที่ Hiroshima เพราะฉะนั้น กลับกันละกัน ทางขากลับ จะเป็นทางเดินผ่านด้านหลังของศาล Itsukushima ที่ตรงนี้ เราจะเจอกับท่อนไม้ขนาดยักษ์ วางไว้อยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร แต่ว่าเห็นทัวร์แวะดูอยู่เหมือนกัน ระหว่างทางเราจะพบกับบ้านเรือนบนเกาะ Miyajima ที่ยังคงอนุรักษ์ให้คงสถาพแบบดั้งเดิมอยู่ บรรยากาศเงียบสงบ รู้สึกดีมากๆ เดินมาถึงทางเข้าของศาล Itsukushima เราจะเห็นศาลเจ้าม้าตั้งเด่น เป็นสีแดงอยู่ แล้วเรายังสามารถเลี้ยวขึ้นไปดู Five-storied Pagoda ได้ แต่เนื่องจากจะรีบไปเลย ขอชมจากข้างล่างละกัน

อย่างที่บอกไปตอนก่อนว่า เราสามารถเดินได้ 2 ทาง คือ ถนนเลียบทะเล กับถนนที่มีร้านขายของ ตอนขามา เราเดินถนนเลียบทะเลมาแล้ว งั้นขากลับเราเดินถนนร้านค้าก็แล้วกัน ร้านค้าแถวนี้เค้าเรียกว่า Omotesando Shopping Arcade ชื่อเหมือนที่ Hirajuku เลยแหะ อาหารที่ขึ้นชื่อของเกาะ Miyajima นี้ ก็คือ Anago-meshi หรือข้าวหน้าปลาไหล, ขนม Momiji Manju ก็คือขนมรูปใบเมเปิ้ล ข้างในใส่ไส้ต่างๆ เช่น custard, ชาเขียว เป็นต้น และสุดท้ายอาหารที่ขื้นชื่อของที่นี้ก็คือ หอยนางรม ดังนั้นเมื่อมาที่เกาะ Miyajima ก็ต้องหามาชิมจริงไหม แค่เดินเข้าไปถนน ร้านแรกก็เจอเลย Momiji Manju มีหลายรสมาก ราคาไม่แพง ชิ้นละประมาณ 80 เยนเท่านั้น ลองซื้อมาชิม 3 รสก็คือ custard cream, green tea และ cheese แต่ยังไม่กินเลยนะ เก็บไว้เป็นเสบียงดีกว่า ตอนแรกไม่รู้หรอกนะว่าที่นี้มีหอยนางรมอร่อย แต่เดินไปเรื่อยๆ เห็นร้านเอาหอยนางรมมาปิ้ง หลายร้าน กลิ่นนี่เย้าให้เดินเข้าไปหามาก เลยลองซื้อมาชิมดู พอกินเข้าไปก็ สุดยอด อร่อย ตัวนี้ใหญ่มาก เนื้อมันก็กรอบ หวาน ไม่คาวเลย สดมากๆ บนถนนนี้มีโชว์ทัพพีไม้อันใหญ่มากด้วย ซึ่งพวกงานไม้นี้ก็เป็นของขึ้นชื่อของเกาะ Miyajima เช่นกัน

นอกจากร้านค้าขายขนม แล้วยังมีร้านอาหารอีกด้วย ก็พยายามเดินหาร้านขายข้าวหน้าปลาไหล ที่ชื่อว่า Tanikishi ที่ตามข้อมูลที่หามาเป็นร้านชื่อดัง แต่เดิน วนไป วนมา หลายรอบ ก็ยังหาไม่เจอสักที เดินไปเดินมา ผ่านร้านขาย Okonomiyaki แบบ Hiroshima ตอนแรกมี plan ว่าจะไปกิน Okonomiyaki ที่ Okonomiyaki Mura ซึ่งเป็นตึกที่ขายเฉพาะ Okonomiyaki อยู่ในเมือง Hiroshima แต่ตอนนี้ก็เริ่มหิวแล้ว กินที่นี้เลยก็แล้วกัน เดี๋ยวจะได้ไม่เสียเวลาต้องไปหาในเมืองอีก Okonomiyaki แบบ Hiroshima นั้นก็จะแตกต่างกับ Okonomiyaki ของ Osaka ตรงที่ของ Osaka ทุกอย่างจะถูกผสมและคลุกกันในชาม แล้วค่อยนำลงไปทอดบนกระทะ แต่ของ Hiroshima นั้นเค้าจะเอาแป้งเทลงในกระทะบางๆ แล้วเอาผักทั้งกำวางลงไป แล้วก็เรียงพวกเนื้ออะไรพวกนี้ ไปเป็นชั้นๆ เราก็จะเห็นว่า Okonomiyaki ของเราเป็นชั้น สวยงาม แล้วสุดท้ายจะใส่เส้นโซบะ ซึ่งของ Osaka จะไม่มีโซบะนี้ ก็สั่งเป็น Okonomiyaki หอยนางรม ยกมาเสริฟ์ ชิ้นใหญ่มาก รสชาติก็คล้ายๆ กับของ Osaka นี้แหละ แต่มีเส้นโซบะ กินเสร็จอิ่มเลย เรายังหาร้านข้าวหน้าปลาไหลไม่ได้เลย ลองเดินวนดูอีกทีก็ไม่เจอ เอาวะ ซื้อร้านไหนก็ได้ สรุปเลยซื้อร้านอะไรไม่รู้มาร้านนึง ซื้อแบบกลับบ้าน เป็นข้าวกล่องกลับไป ซื้อเสร็จรีบวิ่งกลับไปท่าเรือ ไปถึงรถคันสุดท้ายกำลังขึ้นอยู่พอดี เลยต้องวิ่ง 4x100 พนักงานเค้าก็เห็นกำลังวิ่งมา เลยยังไม่ปล่อยให้เรือ ออก และแล้วก็ขึ้นเรือได้ทันเวลาพอดี เหนื่อยเลย ตอนนี้เราจะกลับไปยังเมือง Hiroshima เพื่อไปยังจุดหมายต่อไป คงต้องลาแล้วกับเกาะ Miyajima ถ้าคราวหน้ามีโอกาสจะมาอีก เป็นเกาะที่บรรยากาศดีมากๆ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

omotesando แปลว่าถนนหน้าวัด
วัดไหน ๆ ก็มี